สวิตเซอร์แลนด์... เพียงแค่เอ่ยชื่อนี้ ภาพของยอดเขาหิมะสูงตระหง่าน, ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์, ทุ่งหญ้าเขียวขจี และเมืองเล็กๆ ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย ก็ผุดขึ้นมาในจินตนาการของนักเดินทางทั่วโลกทันที ประเทศนี้คือ "ดินแดนในฝัน" ที่หลายคนปักหมุดไว้ว่าต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต
แต่คำถามที่ตามมาคือ "การไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเอง มันยากไหม?" ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง? แล้วเรื่อง Swiss Travel Pass ที่แสนซับซ้อนล่ะ?
ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป! คู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อ "มือใหม่" โดยเฉพาะ เราจะจับมือคุณวางแผนทีละขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมตัว, การเลือก Pass ที่ใช่, ไปจนถึง แจกแพลนเที่ยว 8 วัน 7 คืนฉบับละเอียด ที่จะทำให้ทริปสวิตเซอร์แลนด์ของคุณเป็นจริงและน่าประทับใจที่สุด
เตรียมตัวก่อนลุย: Checklist สำหรับทริปสวิตเซอร์แลนด์
ก่อนจะไปดื่มด่ำกับความสวยงาม มาเตรียมพื้นฐานสำคัญให้พร้อมกันก่อน
1. วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa)
- สำหรับผู้ถือพาสปอร์ตไทย การเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์จำเป็นต้องขอวีซ่าเชงเก้น ควรยื่นขอล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือนก่อนเดินทางเพื่อความไม่ประมาท
2. ตั๋วเครื่องบิน
- สายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังซูริก (Zurich - ZRH) หรือเจนีวา (Geneva - GVA) จะช่วยประหยัดเวลาได้มาก แนะนำให้จองล่วงหน้า 3-6 เดือนเพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด
3. การแลกเงินและบัตรเครดิต
- สวิตเซอร์แลนด์ใช้สกุลเงิน ฟรังก์สวิส (CHF) แนะนำให้แลกเงินสดติดตัวไปบางส่วนสำหรับร้านค้าเล็กๆ และใช้บัตรเครดิตหรือ Travel Card เป็นหลักเพื่อความสะดวกและปลอดภัย
4. ซิมการ์ดและอินเทอร์เน็ต
- คุณสามารถซื้อซิมสำหรับเดินทางจากไทย หรือไปซื้อที่สนามบินสวิตเซอร์แลนด์ได้ แบรนด์ยอดนิยมคือ Swisscom, Sunrise และ Salt
Swiss Travel Pass: บัตรเบ่งขั้นเทพที่ต้องทำความเข้าใจ

นี่คือหัวใจของการเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเอง! Swiss Travel Pass (STP) คือบัตรโดยสารแบบเหมาจ่ายที่ให้คุณเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้แทบทุกชนิดทั่วประเทศแบบไม่จำกัดเที่ยว ทั้งรถไฟ, รถบัส, เรือ, และรถรางในเมืองต่างๆ รวมถึงเข้าชมพิพิธภัณฑ์กว่า 500 แห่งฟรี!
ประเภทของ Swiss Travel Pass
- Continuous Pass: แบบต่อเนื่อง เหมาะกับคนที่เดินทางทุกวัน (มีให้เลือก 3, 4, 6, 8, 15 วัน)
- Flex Pass: แบบยืดหยุ่น เหมาะกับคนที่มีแผนจะอยู่ในเมืองเดิมนานๆ ไม่ได้เดินทางทุกวัน (เลือกใช้วันเดินทางได้ภายใน 1 เดือน)
ซื้อแบบไหนดี?
- สำหรับมือใหม่และคนที่เที่ยวตามแพลนของเรา: แนะนำให้เลือกซื้อ Swiss Travel Pass แบบต่อเนื่อง 8 วัน จะคุ้มค่าและสะดวกที่สุด ไม่ต้องคิดมากเรื่องการซื้อตั๋วในแต่ละวันเลย
สิทธิประโยชน์เรื่องขึ้นเขา
- STP ให้สิทธิ์ขึ้นยอดเขาบางแห่งฟรี (เช่น Rigi, Stanserhorn) และให้ส่วนลด 25-50% สำหรับยอดเขาส่วนใหญ่ (เช่น Jungfrau, Matterhorn Glacier Paradise)
แจกฟรี! แพลนเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ 8 วัน 7 คืน (ฉบับคลาสสิกรูท)
แพลนนี้ถูกออกแบบมาสำหรับมือใหม่ เน้นเส้นทางวงกลมที่เดินทางง่าย ไม่ย้อนไปมา และครอบคลุมไฮไลท์สำคัญครบถ้วน!
วันที่ 1
- ช่วงเช้า: เดินทางถึงสนามบินซูริก (ZRH) หลังจากผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋า ให้เดินตามป้าย "Bahn/Train" ไปยังสถานีรถไฟที่อยู่ชั้นใต้ดินของสนามบิน
- เปิดใช้งาน Swiss Travel Pass: ที่เคาน์เตอร์ SBB หรือสแกน QR Code ที่คุณได้รับทางอีเมลเพื่อเริ่มใช้งาน
- เดินทางสู่ Lucerne: นั่งรถไฟต่อไปยังเมือง Lucerne (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) รถไฟมีออกแทบทุกครึ่งชั่วโมง
- ช่วงบ่าย: Check-in เข้าที่พักเพื่อเก็บสัมภาระ จากนั้นเริ่มต้นเดินเที่ยวชมเมืองเก่า (Old Town)
- ไฮไลท์: เดินข้าม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ที่มีชื่อเสียง, ถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ที่บอกเล่าเรื่องราวอันน่าเศร้า, และเดินเล่นริมทะเลสาบ Lucerne
- มื้อค่ำ: หาร้านอาหารบรรยากาศดีในย่านเมืองเก่า

วันที่ 2
- ช่วงเช้า (ประมาณ 9:00 น.): เดินไปที่ท่าเรือหน้าสถานีรถไฟ Lucerne (Bahnhofquai) ใช้ STP ล่องเรือในทะเลสาบ Lucerne ไปยังท่าเรือ Vitznau (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับวิวสองข้างทาง
- ช่วงสาย: จากท่าเรือ Vitznau เดินข้ามถนนมาจะเจอสถานีรถไฟไต่เขา (Cogwheel Railway) สายสีแดง ขึ้นสู่ยอดเขา Rigi Kulm (ฟรี! สำหรับผู้ถือ STP)
- ช่วงเที่ยง: เดินเล่นบนยอดเขา Rigi ชมวิว 360 องศาที่มองเห็นทั้งเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบ 13 แห่ง สามารถรับประทานอาหารกลางวันบนยอดเขาได้
- ช่วงบ่าย: ขากลับ ลองเปลี่ยนเส้นทาง นั่งรถไฟไต่เขาสีน้ำเงินลงมาที่สถานี Rigi Kaltbad จากนั้นต่อกระเช้า (Aerial Cableway) ลงมาที่หมู่บ้าน Weggis แล้วล่องเรือกลับสู่ Lucerne เป็นการชมวิวครบทุกรูปแบบ

วันที่ 3
- ช่วงเช้า: Check-out จากที่พักใน Lucerne แล้วไปที่สถานีรถไฟ
- เดินทางสู่ Interlaken: นั่งรถไฟสาย Luzern-Interlaken Express (เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทาง GoldenPass Line) ซึ่งเป็นรถไฟขบวนชมวิว แนะนำให้นั่งฝั่งขวาเพื่อวิวทะเลสาบที่สวยงาม (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง)
- ช่วงบ่าย: เดินทางถึงสถานี Interlaken Ost Check-in เข้าที่พัก แล้วเดินเล่นในเมือง Interlaken ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง 2 ทะเลสาบคือ ทะเลสาบ Thun และ Brienz ชมวิวทิวทัศน์ของยอดเขา Jungfrau จากในเมือง
วันที่ 4
- ช่วงเช้า (เดินทางแต่เช้า): จาก Interlaken Ost นั่งรถไฟไปยัง Grindelwald Terminal หรือ Lauterbrunnen
- ขึ้นสู่ยอดเขา: ต่อรถไฟสาย Eiger Express (จาก Grindelwald) หรือรถไฟไต่เขา (จาก Lauterbrunnen) ไปยังสถานี Eigergletscher แล้วเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟสาย Jungfrau Railway เพื่อมุ่งหน้าสู่ Jungfraujoch – Top of Europe (ผู้ถือ STP ได้รับส่วนลด 25% สำหรับเส้นทางนี้ ต้องซื้อตั๋วเพิ่ม)
- ช่วงสาย-บ่าย: ใช้เวลาบนยอดเขาให้เต็มที่! ชม ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace), ขึ้นลิฟต์ไปยัง Sphinx Observatory จุดชมวิวที่สูงที่สุด, เล่นหิมะที่ Snow Fun Park และส่งโปสการ์ดจากที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป
- ช่วงเย็น: เดินทางกลับที่พักใน Interlaken

วันที่ 5
- ช่วงเช้า: เดินทางไปยัง Grindelwald (หากเมื่อวานยังไม่ได้ไป) นั่งกระเช้าจาก Grindelwald Terminal ขึ้นสู่สถานี First
- กิจกรรม: เดินป่าแบบง่ายๆ ไป-กลับ (ประมาณ 2 ชั่วโมง) เพื่อไปยัง Bachalpsee ทะเลสาบที่สะท้อนเงาของภูเขา, จากนั้นกลับมาเล่นกิจกรรมสนุกๆ เช่น First Flieger (โหนสลิง), First Glider (ร่อนแบบนก)
- ช่วงบ่าย: นั่งรถไฟจาก Grindelwald ไปยัง Lauterbrunnen หุบเขาที่มีน้ำตกกว่า 72 แห่ง เดินเล่นในหมู่บ้าน ชม น้ำตก Staubbach ที่ไหลจากหน้าผาสูงลงมาอย่างน่าอัศจรรย์
- ช่วงเย็น: เดินทางกลับที่พักใน Interlaken

วันที่ 6
- ช่วงเช้า: Check-out จากที่พักใน Interlaken แล้วนั่งรถไฟมุ่งหน้าสู่เมือง Zermatt (อาจต้องเปลี่ยนรถไฟ 1-2 ครั้งที่ Spiez และ Visp / ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 2.5 ชั่วโมง)
- ช่วงบ่าย: เดินทางถึง Zermatt เมืองที่ห้ามใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน Check-in เข้าที่พัก แล้วเริ่มต้นเดินสำรวจเมืองเล็กๆ ที่น่ารักแห่งนี้
- ไฮไลท์: เดินไปที่ สะพาน Kirchbrücke ในเมือง ซึ่งเป็นจุดยอดนิยมในการถ่ายภาพยอดเขา Matterhorn ในตอนเช้าและเย็น

วันที่ 7
- ช่วงเช้า (สำคัญมาก ควรไปแต่เช้าเพื่อให้ฟ้าใสและน้ำนิ่ง): เดินไปสถานีรถไฟ Gornergrat Bahn (อยู่ตรงข้ามสถานีหลัก) นั่งรถไฟไต่เขาขึ้นสู่ยอด Gornergrat
- จุดแวะห้ามพลาด: ขาลง ให้ลงที่สถานี Rotenboden แล้วเดินตามป้ายลงเนินไปประมาณ 10 นาทีเพื่อไปยัง ทะเลสาบ Riffelsee ที่นี่คือจุดที่คุณจะได้เห็นภาพเงาสะท้อนของยอดเขา Matterhorn บนผิวน้ำอันโด่งดัง
- ช่วงบ่าย: เดินทางกลับลงมายัง Zermatt ใช้เวลาช่วงบ่ายเดินซื้อของที่ระลึก หรืออาจจะขึ้นกระเช้าไปอีกฝั่งที่ Matterhorn Glacier Paradise (ยอดเขาที่สูงที่สุดที่กระเช้าเข้าถึงได้ในยุโรป) ก็ได้

วันที่ 8
- ช่วงเช้า: เพลิดเพลินกับบรรยากาศยามเช้าของ Zermatt เป็นครั้งสุดท้าย อาจจะเดินเล่นหรือจิบกาแฟ
- เดินทางสู่สนามบิน: นั่งรถไฟจาก Zermatt ตรงยาวกลับมายังสถานีรถไฟที่สนามบินซูริก (Zurich Airport) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.5 ชั่วโมง) แนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางให้ดี
- ช่วงบ่าย/เย็น: Check-in ที่สนามบินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย พร้อมความทรงจำอันน่าประทับใจ
บทสรุป: เมื่อความฝันกลายเป็นเรื่องง่าย
การเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเองอาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและท้าทายในตอนแรก แต่เมื่อคุณมีคู่มือและแผนการเดินทางที่ดีอยู่ในมือ ทุกอย่างก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที การได้วางแผนและเดินทางไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของประเทศนี้ด้วยตัวเอง คือประสบการณ์ที่จะสร้างความภาคภูมิใจและความทรงจำที่ล้ำค่าไปตลอดชีวิต
เราหวังว่าคู่มือและแพลนการเดินทางนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับทริปในฝันของคุณ
แต่เราก็เข้าใจดีว่า... บางครั้งการวางแผนที่ละเอียดขนาดนี้อาจจะดูน่าปวดหัวและใช้เวลามากเกินไป
หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่า "อยากไปมาก แต่ไม่มีเวลาจัดการเรื่องจุกจิกทั้งหมด" หรือ "อยากได้ทริปที่พิเศษและเป็นส่วนตัวกว่าแผนนี้สำหรับกลุ่มเพื่อนและครอบครัว" การมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแล ก็อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
ไม่ว่าคุณจะเลือกเดินทางในรูปแบบไหน เราเชื่อว่าสวิตเซอร์แลนด์จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน ขอให้มีความสุขกับการเดินทางนะคะ
-------
GTT Inter Travel เรามีแพ็กเกจทัวร์สุดพิเศษ หรือจะจัดกรุ๊ปทัวร์แบบส่วนตัว
โทร 098-483-0111
Facebook page : https://www.facebook.com/gttintertravel
Line ID: @gttintertravel (มี @ ด้วยนะจ๊ะ)