บทนำ: เสน่ห์ของยุโรปหน้าร้อน
ฤดูร้อนของยุโรป (ช่วงเดือนมิถุนายน–สิงหาคม) เป็นฤดูกาลที่อากาศสดใส ท้องฟ้าสีฟ้า เมืองต่างๆ เต็มไปด้วยกิจกรรมกลางแจ้ง เทศกาลดนตรี และคาเฟ่ริมถนนที่มีชีวิตชีวา จึงไม่แปลกเลยที่ “หน้าร้อน” กลายเป็นฤดูทองของการท่องเที่ยวยุโรป โดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางชาวไทยที่หนีฝนไปหาดวงอาทิตย์
หลายเมืองในยุโรปมีการจัดงานเฉลิมฉลองในฤดูร้อนโดยเฉพาะ ทำให้การท่องเที่ยวในช่วงนี้สนุกและมีสีสันมากขึ้น เช่น เทศกาลดนตรีกลางแจ้ง การแสดงศิลปะบนถนน ตลาดนัดกลางคืน รวมถึงกิจกรรมริมหาดและทะเลสาบที่ปกติจะไม่มีในฤดูอื่น
ในบทความนี้น้อง GTT จะพาคุณไปรู้จัก 5 เมืองยอดนิยมของคนไทยที่เดินทางไปเยือนในช่วงหน้าร้อน พร้อมไอเดียกิจกรรม จุดเช็คอิน และเทคนิคเดินทางให้คุ้มค่าทุกนาที
เมืองที่ 1: ปารีส (ฝรั่งเศส) – เมืองโรแมนติกในแสงแดด
ปารีสในหน้าร้อนนั้นมีชีวิตชีวากว่าที่คุณคาดไว้ แม้จะเป็นเมืองที่ใครๆ ก็อยากไปตลอดทั้งปี แต่ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมนั้นถือว่าเป็น High Season ที่แท้จริง

ไม่ควรพลาด:
- ชมพระอาทิตย์ตกที่หอไอเฟล
ช่วงหน้าร้อนพระอาทิตย์ตกช้ากว่าเดิมถึง 3 ทุ่ม บรรยากาศรอบหอไอเฟลเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและนักดนตรีข้างถนนที่สร้างบรรยากาศสุดคลาสสิก - ล่องเรือแม่น้ำแซน (Seine River Cruise)
การนั่งเรือชมเมืองยามเย็นเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง - Paris Plages (เทศกาลชายหาดปลอม)
ปารีสแปลงแม่น้ำให้กลายเป็นชายหาดที่คนเมืองออกมานั่งพักผ่อน เล่นทราย เดินเล่นกันแบบสบายๆ - นั่งคาเฟ่ริมถนนพร้อมครัวซองต์ & เอสเปรสโซ่
ช่วงหน้าร้อนร้านกาแฟเปิดที่นั่ง outdoor เพิ่มขึ้น คุณจะเห็นผู้คนแต่งตัวมีสไตล์จิบกาแฟ อ่านหนังสือเป็นเรื่องปกติ
ข้อควรรู้:
- ค่าที่พักแพงขึ้น ต้องจองล่วงหน้า
- หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ยอดนิยมตอนสาย-บ่าย เพราะคนแน่น
- สื่อสารภาษาอังกฤษได้ในย่านท่องเที่ยว แต่การพูดคำว่า “Bonjour” จะช่วยให้ชาวฝรั่งเศสยิ้มให้มากขึ้น
เมืองที่ 2: ลอนดอน (อังกฤษ) – ซัมเมอร์ของคนมีสไตล์
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองฝน แต่หน้าร้อนในลอนดอนถือเป็นช่วงที่สดใสที่สุดของปี และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก็ต่างพากันเดินทางมาสัมผัสวัฒนธรรมอังกฤษแท้ๆ ที่เปิดกว้างในช่วงซัมเมอร์

สถานที่น่าไป:
- Hyde Park และ Regent’s Park
ปิกนิกใต้ต้นไม้ใหญ่มหึมา หรือปั่นจักรยานรอบสวนคือกิจกรรมที่ทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นนิยมทำมาก - ตลาดกลางแจ้ง เช่น Borough Market และ Camden Market
แหล่งรวมอาหารนานาชาติแบบสตรีทฟู้ด และของที่ระลึกสไตล์ฮิปสเตอร์ - Notting Hill Carnival
เทศกาลคาร์นิวัลประจำเดือนสิงหาคม เต็มไปด้วยสีสัน ดนตรี และขบวนพาเหรดแบบละตินอเมริกันที่สนุกสุดเหวี่ยง
เทคนิคเที่ยว:
- ใช้ Oyster Card หรือ Travelcard ช่วยประหยัดค่าเดินทางในลอนดอนได้มาก
- รักษากฎระเบียบบนรถไฟใต้ดิน เช่น ยืนชิดซ้ายบนบันไดเลื่อน
- พกเสื้อคลุมบางๆ เผื่อฝน เพราะสภาพอากาศยังเปลี่ยนแปลงง่าย
เมืองที่ 3: โรม (อิตาลี) – ร้อนแรงแต่ทรงเสน่ห์
โรมในหน้าร้อนอาจทำให้คุณเหงื่อไหลตั้งแต่เช้า แต่เสน่ห์ของเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยตำนานและประวัติศาสตร์ก็ยังดึงดูดนักเดินทางไม่หยุด

สถานที่แนะนำ:
- โคลอสเซียม และโรมันฟอรัม
อย่าลืมจองบัตรล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อแถวกลางแดดจัด - น้ำพุเทรวี
สถานที่โรแมนติกที่ต้องโยนเหรียญขอพรตามธรรมเนียม - นครวาติกัน
แม้จะเล็กที่สุดในโลก แต่นี่คือหนึ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ควรพลาด
อาหารหน้าร้อนไม่ควรพลาด:
- พาสต้าเย็น (Pasta Fredda)
- เจลาโต้รสผลไม้ เช่น เลมอน สตรอว์เบอร์รี่ มะม่วง
ข้อควรระวัง:
- โจรล้วงกระเป๋าระบาดหนักในจุดท่องเที่ยวหลัก ควรใช้กระเป๋าคาดอกหรือเข็มขัดกันขโมย
- ดื่มน้ำประปาได้ฟรีจากน้ำพุสาธารณะ (มีอยู่ทั่วเมือง)
เมืองที่ 4: บาร์เซโลนา (สเปน) – เมืองศิลป์ติดทะเล
บาร์เซโลนาเป็นเมืองที่ลงตัวระหว่างวัฒนธรรม ศิลปะ และทะเล เหมาะกับคนที่อยากเที่ยวเชิงศิลป์และพักผ่อนริมทะเลในเวลาเดียวกัน

ไฮไลต์:
- ชายหาด Barceloneta
สามารถว่ายน้ำ เล่นวอลเลย์บอล หรือเช่าจักรยานขี่เลียบหาดได้ - สถาปัตยกรรมของ Gaudí
ชมความอลังการของ Sagrada Familia, Casa Batlló และ Park Güell - เทศกาล Primavera Sound (ปลายพ.ค.-ต้นมิ.ย.)
เทศกาลดนตรีระดับโลกที่รวมศิลปินอินเตอร์มากมาย
วัฒนธรรมที่ควรรู้:
- ชาวสเปนมักเริ่มกินมื้อเย็นหลังสองทุ่ม
- คนส่วนใหญ่พูดภาษาคาตาลัน คำทักทายว่า “Hola” และ “Gracias” ใช้ได้ดี
ข้อดี:
- อาหารอร่อย ราคาถูกกว่าหลายเมืองใหญ่ในยุโรป
- มีรถไฟใต้ดินครอบคลุม เส้นทางชัดเจน
- บรรยากาศไม่รีบเร่ง เหมาะกับสายชิลล์
เมืองที่ 5: ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์) – เมืองแห่งทะเลสาบและความสงบ
ซูริคอาจไม่คึกคักเท่าเมืองอื่นในลิสต์ แต่ก็มีเสน่ห์ในแบบสงบ สะอาด และใกล้ธรรมชาติ เหมาะกับครอบครัวหรือคนที่ต้องการพักผ่อนจริงๆ

กิจกรรมแนะนำ:
- ว่ายน้ำในทะเลสาบซูริค หรือปิคนิคริมฝั่ง
- นั่งเรือข้ามฟาก หรือ ล่องเรือชมวิวเมือง
- ขึ้นเขา Uetliberg เพื่อชมวิว 360 องศา
พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์:
- Kunsthaus Zürich
- FIFA World Football Museum
เรื่องที่ควรรู้:
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่คุณภาพชีวิตดีมาก
- ใช้ Swiss Travel Pass จะช่วยประหยัดได้มาก โดยครอบคลุมรถไฟ เรือ รถราง และบางพิพิธภัณฑ์
- เมืองปลอดภัยมาก เดินคนเดียวตอนกลางคืนได้สบาย
วางแผนเที่ยวยุโรปหน้าร้อนแบบมือโปร
วีซ่าเชงเก้น
- ขอได้จากสถานทูตประเทศที่คุณเข้าหรือพำนักนานที่สุด
- ใช้เวลา 10–15 วันทำการ
- เอกสารสำคัญ: ตั๋วเครื่องบิน, ประกันการเดินทาง, หลักฐานการเงิน
จองตั๋วเครื่องบิน
- ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนจะได้ราคาถูก
- หลีกเลี่ยงการเดินทางช่วงปลายกรกฎาคมถึงต้นสิงหาคมที่ราคาสูงสุด
แอปช่วยเที่ยวที่ควรมี:
- Rome2Rio (วางแผนเดินทาง)
- Google Translate
- TripIt (รวมไฟลท์ โรงแรม)
- Maps.me หรือ Google Maps แบบ Offline
งบประมาณคร่าวๆ ต่อวัน:
- แบบประหยัด: 70–100 ยูโร
- กลางๆ: 120–150 ยูโร
- พรีเมียม: 200 ยูโรขึ้นไป
เสื้อผ้า:
- เสื้อผ้าระบายอากาศดี
- หมวก แว่นกันแดด
- ครีมกันแดด SPF สูง
- รองเท้าผ้าใบเดินไกลสบายๆ
สรุป: เมืองไหนเหมาะกับคุณ?
เมือง | เหมาะสำหรับ | จุดเด่น |
ปารีส | คนชอบศิลปะ/โรแมนติก | เมืองแห่งศิลป์ คาเฟ่ สะพานแม่น้ำ |
ลอนดอน | คนชอบวัฒนธรรม | พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ ตลาดนัด |
โรม | สายประวัติศาสตร์ | เมืองโบราณ เจลาโต้ พาสต้า |
บาร์เซโลนา | คนชอบทะเล+ศิลปะ | หาดสวย+สถาปัตยกรรม |
ซูริค | ครอบครัว/สายธรรมชาติ | ทะเลสาบสะอาด เมืองสงบ |

FAQs
Q: ฤดูร้อนในยุโรปอยู่ช่วงเดือนไหน?
A: โดยทั่วไปคือเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม อากาศอยู่ที่ 15–30°C ขึ้นกับประเทศ
Q: เมืองไหนเหมาะสำหรับคนไปยุโรปครั้งแรก?
A: ปารีสและลอนดอน เหมาะกับมือใหม่เพราะระบบขนส่งดี คนใช้ภาษาอังกฤษได้เยอะ
Q: ค่าครองชีพในหน้าร้อนแพงไหม
A: โดยเฉพาะที่พัก จะขึ้นราคาเพราะเป็น High Season แนะนำจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน
Q: จำเป็นต้องพูดภาษาอังกฤษได้ไหม
A: ควรรู้คำพื้นฐาน แต่หลายเมืองมีเมนูภาษาอังกฤษ แอปแปลภาษาช่วยได้เยอะ
Q: วีซ่ายุโรป (เชงเก้น) ขอยังไง?
A: ต้องยื่นผ่านศูนย์ VFS/สถานทูตของประเทศที่อยู่หลักในทริป ใช้เวลาประมาณ 15 วันทำการ
Q: เดินทางคนเดียวอันตรายไหม?
A: เมืองใหญ่บางแห่งมีมิจฉาชีพ ควรระวังของมีค่า และไม่เดินลำพังในที่เปลี่ยว
-------
GTT Inter Travel เรามีแพ็กเกจทัวร์สุดพิเศษ หรือจะจัดกรุ๊ปทัวร์แบบส่วนตัว
โทร 098-483-0111
Facebook page : https://www.facebook.com/gttintertravel
Line ID: @gttintertravel (มี @ ด้วยนะจ๊ะ)