เที่ยวช่วง Shoulder Season คืออะไร? คู่มือเที่ยว 'นอกฤดู' ให้ถูกและดีกว่า

เคยไหม? ที่วางแผนทริปในฝันมาแรมปี แต่พอไปถึงกลับต้องเจอกับฝูงชนมหาศาลจนแทบไม่มีที่เดิน, ราคาโรงแรมและตั๋วเครื่องบินที่พุ่งสูงจนน่าตกใจ, และอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัดจนเที่ยวไม่สนุก... หากคุณเคยเจอประสบการณ์เหล่านี้ บทความนี้คือ "ทางออก" ที่คุณกำลังตามหา

นักเดินทางที่ฉลาดที่สุดในโลกต่างรู้ความลับข้อหนึ่งที่เรียกว่า "Shoulder Season" มันคือช่วงเวลามหัศจรรย์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความวุ่นวายของไฮซีซั่นและความเงียบเหงาของโลว์ซีซั่น เป็นช่วงเวลาทองที่จะทำให้คุณได้สัมผัสจุดหมายปลายทางในฝันในเวอร์ชันที่ดีที่สุด

เราจะพาคุณไปเจาะลึกว่า Shoulder Season คืออะไร และทำไมมันถึงเป็นกลยุทธ์การเดินทางที่จะเปลี่ยนประสบการณ์เที่ยวของคุณไปตลอดกาล!

ก่อนอื่น... "Shoulder Season" คือช่วงไหนกันแน่?

ในหนึ่งปี เราสามารถแบ่งฤดูท่องเที่ยวได้ 3 แบบ:

1. High Season (หรือ Peak Season): ช่วงที่คนนิยมเที่ยวมากที่สุด มักจะมีอากาศดีที่สุดหรือตรงกับวันหยุดยาว (เช่น ฤดูร้อนในยุโรป, ช่วงซากุระบานในญี่ปุ่น) ข้อเสีย: แพง, คนเยอะ, ทุกอย่างต้องจองล่วงหน้านาน
2. Low Season: ช่วงที่คนเที่ยวน้อยที่สุด อาจเพราะอากาศไม่เอื้ออำนวย (เช่น ฤดูมรสุม) ข้อเสีย: สถานที่ท่องเที่ยวหรือร้านค้าบางแห่งอาจปิด, สภาพอากาศไม่แน่นอน
3. Shoulder Season: คือช่วงเวลา "คาบเกี่ยว" ระหว่าง High Season และ Low Season เป็นเหมือน "ไหล่เขา" ที่กำลังจะไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดหรือเพิ่งจะลงมาจากจุดสูงสุดนั่นเอง

เปิด 5 เหตุผลที่คุณควรตกหลุมรักการเที่ยวช่วง Shoulder Season

นี่คือเหตุผลที่ชัดเจนที่สุด! ตั๋วเครื่องบินและโรงแรมที่พักในช่วง Shoulder Season อาจมีราคาถูกกว่าช่วงไฮซีซั่นถึง 20-50% ทำให้คุณมีเงินเหลือไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการอัปเกรดมื้ออาหาร, ช้อปปิ้ง, หรือทำกิจกรรมพิเศษต่างๆ

ลืมภาพการต่อคิวยาวเหยียดเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ หรือการพยายามหามุมถ่ายรูปโดยไม่ให้ติดคนอื่นไปได้เลย การเที่ยวในช่วงนี้จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของสถานที่ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ เดินชมเมืองได้แบบสบายๆ ไม่ต้องรีบร้อน

Shoulder Season มักจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งมีอากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนจัดเหมือนฤดูร้อน และไม่หนาวจัดเหมือนฤดูหนาว เป็นสภาพอากาศที่เหมาะกับการเดินเที่ยวสำรวจเมืองที่สุด

เมื่อนักท่องเที่ยวลดลง เมืองต่างๆ ก็จะกลับคืนสู่บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น คุณจะได้เห็นวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นจริงๆ มีโอกาสได้นั่งคุยกับเจ้าของร้านกาแฟ หรือเดินตลาดที่เต็มไปด้วยชาวเมืองมากกว่านักท่องเที่ยว

ไม่ต้องจองร้านอาหารล่วงหน้าเป็นเดือนๆ หรือรีบซื้อตั๋วรถไฟเพราะกลัวเต็ม คุณจะมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางเฉพาะหน้าได้มากขึ้น ทำให้ทริปของคุณผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติกว่าเดิม

ปฏิทิน Shoulder Season รอบโลก: วางแผนทริปหน้าของคุณที่ไหนดี?

เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนที่สุด เราได้รวบรวม "ช่วงเวลาทอง" สำหรับการเดินทางในแต่ละภูมิภาคทั่วโลกมาให้แล้ว ลองดูสิว่าจุดหมายปลายทางในฝันของคุณ ควรไปเยือนในช่วงเดือนไหนดีที่สุด

โซนยุโรปใต้ (เมดิเตอร์เรเนียน: อิตาลี, กรีซ, สเปน, โปรตุเกส, โครเอเชีย)

• High Season: มิถุนายน - สิงหาคม (อากาศร้อนจัด, ชายหาดแน่นขนัด, ราคาพุ่งสูงสุด)
• Shoulder Seasons ที่ดีที่สุด:
  • เมษายน - พฤษภาคม (ฤดูใบไม้ผลิ): อากาศอบอุ่นกำลังดี เหมาะกับการเดินเที่ยวชมเมือง ดอกไม้บานสะพรั่ง ผู้คนยังไม่หนาแน่น
  • กันยายน - ตุลาคม (ฤดูใบไม้ร่วง): แดดยังคงอบอุ่น น้ำทะเลยังพอเล่นได้ เทศกาลเก็บเกี่ยวไวน์เริ่มต้นขึ้น และนักท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อนได้เดินทางกลับไปแล้ว

โซนยุโรปตะวันตกและกลาง (ฝรั่งเศส, เยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์, เนเธอร์แลนด์)

• High Season: กรกฎาคม - สิงหาคม (อากาศดี, เป็นช่วงวันหยุดยาวของชาวยุโรป)
• Shoulder Seasons ที่ดีที่สุด:
  • พฤษภาคม - มิถุนายน: อากาศสดใส สวนสาธารณะเขียวขจี เป็นช่วงเวลาก่อนที่นักศึกษาจะปิดเทอม
  • กันยายน: อากาศเริ่มเย็นลงเล็กน้อยแต่ยังคงน่าเที่ยว ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีในบางพื้นที่ เป็นช่วงเวลาที่สงบและโรแมนติก
    

ญี่ปุ่น

• High Seasons: ปลายมีนาคม - เมษายน (ซากุระ), กลาง-ปลายพฤศจิกายน (ใบไม้เปลี่ยนสีในเมืองหลัก)
• Shoulder Seasons ที่ดีที่สุด:
  • ปลายพฤษภาคม (หลัง Golden Week) - มิถุนายน: อากาศอบอุ่น ท้องฟ้าแจ่มใส ทุ่งดอกไม้ในฮอกไกโดเริ่มเบ่งบาน
  • กันยายน - ตุลาคม: อากาศเริ่มเย็นสบาย พายุไต้ฝุ่นเริ่มน้อยลง เป็นช่วงเวลาก่อนที่นักท่องเที่ยวจะแห่มาชมใบไม้เปลี่ยนสี

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ไทย, เวียดนาม, บาหลี)

• High Season: พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ (อากาศแห้งและเย็นสบาย)
• Shoulder Seasons ที่ดีที่สุด:
  • มีนาคม - เมษายน: อากาศเริ่มร้อนขึ้น แต่ยังไม่ถึงช่วงมรสุม ทะเลยังคงสวยงาม
  • ตุลาคม: ปลายฤดูฝน ธรรมชาติเขียวชอุ่มและสมบูรณ์ที่สุด น้ำตกสวยงาม และนักท่องเที่ยวยังบางตา

สหรัฐอเมริกา และ แคนาดา (ส่วนใหญ่)

• High Season: มิถุนายน - สิงหาคม (ปิดเทอมฤดูร้อน, อุทยานแห่งชาติคนเยอะมาก)
• Shoulder Seasons ที่ดีที่สุด:
  • พฤษภาคม: อากาศกำลังอุ่นขึ้น เหมาะกับการเที่ยวชมเมืองและอุทยานทางตอนใต้
  • กันยายน - ตุลาคม: อากาศเย็นสบาย ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามน่าทึ่ง (โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกและในแคนาดา)

เปรู, โบลิเวีย, เอกวาดอร์ (แถบเทือกเขาแอนดีส)

• High Season: มิถุนายน - สิงหาคม (ฤดูแล้ง, เหมาะกับการเดินป่า Inca Trail)
• Shoulder Seasons ที่ดีที่สุด:
  • เมษายน - พฤษภาคม: หลังฤดูฝน ภูเขาจะเขียวขจีสดชื่นเป็นพิเศษ
  • กันยายน - ตุลาคม: ท้องฟ้ายังคงแจ่มใส และนักท่องเที่ยวน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

ออสเตรเลีย & นิวซีแลนด์

• High Season: มิถุนายน - ตุลาคม (ฤดูแล้ง, สัตว์มารวมตัวกันที่แหล่งน้ำ, Great Migration)
• Shoulder Season ที่ดีที่สุด:
  • ตุลาคม - พฤศจิกายน: ปลายฤดูแล้ง นักท่องเที่ยวน้อยลง แต่ยังคงมีโอกาสเห็นสัตว์มากมายในราคาที่พักที่ถูกลง

บทสรุป: เที่ยวอย่างชาญฉลาด คือการลงทุนในประสบการณ์ที่ดีที่สุด

การเที่ยวช่วง Shoulder Season ไม่ใช่แค่เรื่องของการประหยัดเงิน แต่คือการลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่ง "ประสบการณ์" การเดินทางที่ลึกซึ้งและน่าประทับใจยิ่งกว่า มันคือการเลือกที่จะหลีกหนีจากความวุ่นวาย เพื่อเข้าไปค้นพบความสวยงามที่แท้จริงของจุดหมายปลายทางนั้นๆ

แน่นอนว่าการวางแผนทริปในช่วงเวลานี้อาจต้องอาศัยข้อมูลเชิงลึกและความเข้าใจในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่พลาดไฮไลท์สำคัญหรือเจอกับสภาพอากาศที่ไม่คาดฝัน

หากคุณสนใจในแนวคิดการเดินทางที่ชาญฉลาดเช่นนี้ และต้องการ "ผู้ช่วยส่วนตัว" ที่จะมาช่วยออกแบบทริปในช่วง Shoulder Season ที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับคุณ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินทาง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้ทริปของคุณทั้งคุ้มค่าและไร้ความกังวล

ลองเปิดปฏิทินของคุณ แล้วมองหาช่วงเวลา "นอกกระแส" เหล่านี้ดูสิคะ บางทีทริปที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ อาจซ่อนอยู่ในช่วงเวลาที่คุณไม่เคยนึกถึงมาก่อนก็ได้

-------
GTT Inter Travel เรามีแพ็กเกจทัวร์สุดพิเศษ หรือจะจัดกรุ๊ปทัวร์แบบส่วนตัว
โทร 098-483-0111
Facebook page : https://www.facebook.com/gttintertravel
Line ID: @gttintertravel (มี @ ด้วยนะจ๊ะ)